ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
เนื้อหาที่ 4. เทคนิคในการจัดกิจกรรม
เทคนิคในการจัดกิจกรรม
รูปแบบการสอน การภาษาเพื่อการสื่อสาร
ครูกุศยา แสงเดช ใช้เทคนิคการสอนหลาย ๆ แบบ
ผสมผสานกันยึดหลักการสอนเพื่อการสื่อสารเป็นสำ คัญ โดยนำ เอาการสอนแบบตรง
การเลียนแบบ และท่องจำ เข้ามาแทรกในการฟัง บทฟังและพูด นำ ไวยากรณ์มาแทรกในการสอน มีการสรุปกฎเกณฑ์เน้นทักษะการใช้ภาษาเป็นสำ
คัญ ขั้นตอนการสอนภาษาอังกฤษมี3 ขั้นตอน คือ
ขั้นที่ 1 ขั้น Presentationกิจกรรมนำ
เข้าสู่บทเรียนโดยการทำ กิจกรรม Warm upกิจกรรมทบทวนสิ่งที่เรียนมาแล้ว
การบอกจุดประสงค์ในการเรียนนำ เสนอศัพท์ใหม่ โครงสร้างประโยคหรือการอ่านและเขียน
ในขั้นตอนนี้เน้นความถูกต้องของการใช้ภาษา (accuracy)
ขั้นที่ 2 ขั้น Practiceขั้นนี้เป็นการฝึกที่อยู่ในความดูแลของครู(Controlled Practice)เมื่อเห็นว่านักเรียนเข้าใจแล้ว
จึงให้นักเรียนจับกลุ่มฝึกPractice) ในขั้นนี้ครูไม่ขัดจังหวะการฝึกของนักเรียนถึงแม้จะพบว่ามีข้อผิดพลาด
แต่เมื่อฝึกเสร็จแล้วจึงจะแก้ไขภายหลัง เพราะระยะนี้ต้องการความคล่องแคล่วในการพูด
(fluency)
ขั้นที่ 3 ขั้น Productionเป็นขั้นตอนที่นำ
ความรู้และทักษะภาษาไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การแสดงบทบาทสมมติ การแสดงละคร
การเล่นเกมร้องเพลง และการทำ แบบฝึกหัด
ก่อนสอนครูอธิบายสถานการณ์ให้นักเรียนเข้าใจแต่ละตอนเป็นต้นว่า
ในห้องเรียน สนาม ใครกำ ลังพูดกับใคร เรื่องอะไรและแยกสอนคำ
ศัพท์ใหม่ที่ต้องใช้ก่อนดังนี้
1. ขั้นตอนการสอนคำ ศัพท์
1.1! ครูแสดงรูปภาพหรือวัสดุของจริงให้นักเรียนดู
กระตุ้นให้นักเรียนตั้งคำ ถาม เช่น What’s that? หรือ Is that a ........ ? หรือ What’s ....... in English? หลังจากนั้นครูตอบทันทีว่า
It’s a .......เป็นการบอกความหมาย
โดยไม่ต้องบอกความหมายเป็นภาษาไทย เช่น ครูสอนคำ ศัพท์ว่า cat ครูถือภาพแมว
ถามนักเรียนว่า What’s this?
นักเรียนตอบว่า “แมว” ครูพูดทันทีว่า It’s a cat. พูดซํ้า2-3
ครั้งให้นักเรียนฟังอย่างตั้งใจสังเกตวิธีการออกเสียงของครู
1.2 ครูแสดงบัตรคำ ให้นักเรียนสะกดคำ
โดยใช้ประโยคคำ
สั่ง Read this
นักเรียน : cat
ครู : Spell it
นักเรียน : c - a - t
1.3 ให้นักเรียนจับคู่ ถาม - ตอบ
โดยใช้บัตรภาพของ
นักเรียนด้วยประโยค
A
: What’s this?
B
: It’s a cat.
1.4 หากมีคำ ศัพท์อื่น ๆ ที่จะต้องสอนในบทฟัง
พูด อีกก็
สอนด้วยวิธีเดียวกันนี้ แต่ควรสอนครั้งละไม่เกิน
5 คำ
1.5 เมื่อสอนคำ ศัพท์จนครบแล้ว
ให้นักเรียนจดศัพท์ลง
ในสมุด โดยใช้คำ สั่ง Write the words in your notebooks.
กิจกรรมจากการเรียนรู้
เทคนิคการสอนจากครูต้นแบบ สอนเรื่อง การสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร มีการจัดกิจกรรม 3 ขั้น ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสรุป
เนื้อหาที่ 3 การออกเสียงภาษาอังกฤษ
การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
1.
คำที่ลงท้ายด้วย -tion อย่าออกเสียงว่า
ชั่น ให้ออกเสียงว่า เฉิ่น เช่น nation อย่าออกเสียงว่า
เนชั่น ให้ออกเสียงว่า เน้เฉิ่น
2.
คำที่ลงท้ายด้วย -ing อย่าออกเสียงว่า
อิ้ง ให้ออกเสียงว่า อิ่ง เช่น going อย่าออกเสียงว่า
โกอิ้ง ให้ออกเสียงว่า โก๊อิ่ง
3.
คำที่ลงท้ายด้วย -er/-or อย่าออกเสียงว่า
เอ้อ ให้ออกเสียงว่า เอ่อ เช่น teacher และ color อย่าออกเสียงว่า ที้ชเช่อร์ คัลเล่อร์
ให้ออกเสียงว่า ที้ชเฉ่อร์ คั้ลเหล่อร์
4.
คำที่ลงท้ายด้วย -ment อย่าออกเสียงว่า
เม้นท ให้ออกเสียงว่า เหม่นท เช่น comment อย่าออกเสียงว่า
คอมเม้นท ให้ออกเสียงว่า ค้อมเหม่นท
5.
คำที่ลงท้ายด้วย -ty -ly -ry อย่าออกเสียงว่า
ตี้ ลี่ รี่ ให้ออกเสียงว่า ถี่ หลี่ หรี่ เช่น city
lovely very อย่าออกเสียงว่า ซิตี้ เลิ้ฟลี่ เวรี่ ให้ออกเสียงว่า ซิถี่ เลิ้ฟหลี่
เฟ้หรี่
6. คำว่า is/was ถ้าอยู่ในประโยค อย่าออกเสียงว่า อี้ส กับ ว้อส
ให้ออกเสียงว่า อิ่ส และ เวิ่อส
ตัวอย่างประโยค
He is a very good teacher teaching at a university in the city
center.
She was a lovely manager working in an apartment near the train
station.
เป็นการทดลองทำสื่อการสอนอักษรภาษาอังกฤษ ในรูปแบบ powerpiont และนำเสนอหน้าชั้นเรียน
http://www.slideshare.net/0908291172/nz-57858811
สิ้นสุดการสนทนา
เนื้อหาที่ 1.ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย
งานที่ 1 ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย
1.
หลักการ แนวคิด
เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
กีเซล (Gesell)
•
พัฒนาการของเด็กเป็นไปอย่างมีแบบแผนและเป็นขั้นตอน
เด็กควรพัฒนาไปตามธรรมชาติไม่ควรเร่งหรือบังคับ
•
การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นจากการ การเคลื่อนไหว การใช้ภาษา
การปรับตัวเข้าสังคมกับบุคคลรอบข้าง
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
• จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
• ให้เด็กได้เล่นกลางแจ้ง
• จัดกิจกรรมสร้างสรรค์
ฝึกการใช้มือและ ประสาทสัมพันธ์มือกับตา
• จัดกิจกรรมให้เด็กได้ฟัง
ได้พูดท่องคำคล้องจอง ร้องเพลง ฟังนิทาน
• จัดให้เด็กทำกิจกรรมเดี่ยวและกิจกรรมกลุ่ม
ฟรอยด์ (Freud)
ประสบการณ์ในวัยเด็กส่งผลต่อบุคลิกภาพ ของคนเราเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
หากเด็กไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอ จะเกิดอาการชะงัก พฤติกรรมถดถอย
คับข้องใจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
•
ครูเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งการแสดงออก ท่าทีวาจา
•
จัดกิจกรรมเป็นขั้นตอน จากจ่ายไปหายาก
• จัดสิ่งแวดล้อมที่บ้านและโรงเรียนเพื่อส่งเสริมพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก
อีริคสัน (Erikson)
• ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เด็กพอใจ
ประสบผลสำเร็จ เด็กจะมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อมั่นและไว้วางใจผู้อื่น
• ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี
ไม่พอใจจะมองโลกในแง่ร้าย ขาดความเชื่อมั่นในตนเองและไม่ไว้วางใจผู้อื่น
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
•
จัดกิจกรรมให้เด็กได้ประสบผลสำเร็จ พึงพอใจต่อสภาพแวดล้อมของห้องเรียน
เพื่อนครู
•
จัดบรรยากาศในห้องเรียน
ให้เด็กมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ครูและเพื่อน ๆ
เพียเจท์ (Piaget)
• พัฒนาการทางด้านเชาว์ปัญญาของเด็กเกิดจากการที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมรอบ
ๆ ตัวเด็ก มีการรับรู้จากสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
และมีการปรับขยายประสบการณ์เดิม ความคิดและความเข้าใจให้ขยายมากขึ้น
• พัฒนาการของเด็กปฐมวัย
(0 – 6 ปี)
1. ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหววัย
0 – 2 ปี เด็กเรียนรู้ทุกอย่างทางประสาทสัมผัสทุกด้าน
2. ขั้นความคิดก่อนปฏิบัติการวัย
2 – 6 ปี เริ่มเรียนภาษาพูดและภาษาท่าทางในการสื่อสารยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง
คิดหาเหตุผลไม่ได้จัดหมวดหมู่ได้ตามเกณฑ์ของตนเอง
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
• จัดกิจกรรมให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัส
ทั้ง 5
•
จัดให้เด็กฝึกฝนทักษะ การสังเกต การจำแนก เปรียบเทียบ
• จัดกิจกรรมให้เด็กมีโอกาสคิดหาเหตุผลเลือก
และตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง
• จัดให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งใกล้ตัวไปสู่เรื่องไกลตัว
และมีลักษณะที่เป็นรูปธรรม
ดิวอี้ (Dewey)
• เด็กเรียนรู้โดยการกระทำ
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
• จัดกิจกรรมให้เด็กได้ประสบผลสำเร็จพึงพอใจต่อสภาพแวดล้อมของห้องเรียนเพื่อน
ครู
• จัดบรรยากาศในห้องเรียน
ให้เด็กมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ครูและเพื่อน ๆ
สกินเนอร์ (Skinner)
• ถ้าเด็กได้รับการชมเชย
และประสบผลสำเร็จในการทำกิจกรรม เด็กสนใจที่ทำต่อไป
• เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
ไม่มีใครเหมือนใคร
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
• ให้แรงเสริม
เช่น ชมเชย ชื่นชม เมื่อเด็กทำกิจกรรมประสบผลสำเร็จ
•
ไม่นำเด็กมาเปรียบเทียบแข่งขันกัน
เปสตาลอสซี่ (Pestalozzi)
• ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก
ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา
• เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน
ทั้งด้านความสนใจความต้องการ และระดับความสามารถในการเรียน
• เด็กไม่ควรถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
• จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม ให้ความรักให้เวลา
และให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์
เฟรอเบล (Froeble)
• ควรส่งเสริมพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็กด้วยการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรี
• การเล่นเป็นการทำงานและการเรียนรู้ของเด็ก
การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
• จัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างเสรี
2.
ความหมาย ประโยชน์ ของภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
การศึกษาปฐมวัยหมายถึง
การศึกษาปฐมวัยคือการจัดการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการพัฒนาการในเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง8ขวบหรือชั้นประถมศึกษาปีที่3การจัดการเด็กในที่นี้รวมถึงการจัดการศึกษาทางเป็นทางการ(formal
group settings )และการจัดการศึกษาแบบไม่เป็นทางการ(informal
group settings)เพราะการเรียนรู้ของเด็กในช่วงวัยดั้งกล่าวถือเป็นรากฐานของการเรียนรู้ในอนาคต
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัยคือการที่ครูจะสอนได้ดีนั้นจำเป็นต้องศึกษาเด็ก ยิ่งกว่านั้นงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการทางสมองมนุษย์ยั้งเน้นความสำคัญของการศึกษาปฐมวัยโดยเฉพาะในช่วงของ5 ของปีแรกของชีวิตว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้
และเด็กจำเป็นต้องได้รับการดูแล
เอาใจใส่จากพ่อแม่หรือผู้ดูแลตั้งแต่แรกเกิดโดยการให้ความรัก การโอบกอด สัมผัส
พูดคุย และเล่นกับเด็กเพื่อให้สมองของเด็กได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ตามศักยภาพ
การเข้าใจพัฒนาเด็กส่งผลดีต่อครูผู้สอนหลายประการ ผลดีประการหนึ่งคือ
ช่วยให้ครูเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ของเด็กได้ดียิ่งขึ้น ยังสามารถวางแผนหลักสูตร
การเรียนการสอนได้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้มากขึ้นศักยภาพ
การเข้าใจพัฒนาเด็กส่งผลดีต่อครูผู้สอนหลายประการ ผลดีประการหนึ่งคือ
ช่วยให้ครูเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ของเด็กได้ดียิ่งขึ้น ยังสามารถวางแผนหลักสูตร
การเรียนการสอนได้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้มากขึ้น
เมื่อตระหนักว่าเด็กมีความสำคัญต่อประเทศ
ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง
หรือที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อเด็กได้ปฏิบัติต่อเด็กสมกับความสำคัญของเขาหรือยัง
โดยเฉพาะพ่อแม่ ครู อาจารย์ เพราะว่าเด็กที่เจริญเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนั้นต้องมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีควบคู่กันไปถือว่าการอบรมเลี้ยงดูนั้นมีความสำคัญมาก
ประโยชน์
ของภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เราได้ทราบถึงการใช้ภาษาในการพูดและการเขียนและหลักในการใช้คำในการอ่านและการพูด
ทำให้สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น
๑. ทักษะการใช้ภาษา
๒. ลักษณะการใช้ภาษาในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ
๓. การอ่าน และการฟัง
3. ความสำคัญของภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
ความสำคัญของภาษาอังกฤษภาษาอังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนไทย
และคนทั่วโลกไปแล้ว มนุษยชาติทุกวันนี้สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกันโดยตรง
การใช้อินเตอร์เน็ต การดูทีวี การดูภาพยนตร์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
หนังสือคู่มือทางด้านวิชาการต่างๆ ฯลฯ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาออกมาในปัจจุบัน
ถ้ามีความรู้ภาษาอังกฤษทั้งพูดและเขียนเสริมเข้าไปด้วยอีก โอกาสที่จะหางานก็จะไม่จำกัดแค่ในประเทศไทย
เท่านั้น ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
ท่านคงจะไม่ปฏิเสธได้ถึงสิทธิพิเศษที่ท่านมีเหนือคนอื่นที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
ด้วยเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ทำให้โลกของเราแคบลงไปถนัดตา
ทุกวันนี้ท่านสามารถรับรู้ข่าวสาร
หรือติดต่อกับเพื่อนต่างชาติได้ภายในเสี้ยววินาที
ท่านจะไม่เข้าถึงสิทธิพิเศษเหล่านี้เลย ถ้าท่านไม่รู้ภาษาอังกฤษ
ระบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนของไทยหลายท่านอาจจะบอกว่า
ประเทศไทยเราก็ให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมคนไทยถึงพูดภาษาอังกฤษสู้คนฟิลิปปินส์ไม่ได้เลย
นั่นก็เพราะว่าหลักสูตรภาษาอังกฤษของกระทรวงศึกษาธิการของเรายังไม่ได้เน้นการพูดภาษาอังกฤษ
จะเน้นแต่หลักไวยากรณ์ คำแปล
และการอ่านเพื่อความเข้าใจและให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นส่วนใหญ่
สิ่งที่จะต้องปรับปรุงอย่างมากในระบบการเรียนภาษาอังกฤษของไทยเราคือ
การเน้นการพูดออกเสียง ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงพยัญชนะแต่ละตัว
การเน้นเสียงหนักเบา ซึ่งจะต้องมีสื่อช่วยสอนที่เป็นมัลติมีเดีย คือ มีทั้งภาพ
เสียง และตัวหนังสือ ให้ด้วย แทนระบบเก่าที่มีแต่ตัวหนังสือเท่านั้น
ทำให้การออกเสียงตามคำอ่านที่เขียนในตำราหรือพจนานุกรมที่ผิดๆ เช่นคำว่า cat ในพจนานุกรมอังกฤษไทยจะเขียนคำอ่านเป็น แคท
ซึ่งแปลมาจากคำอ่านพจนานุกรมอังกฤษเป็นอังกฤษ ทำให้คนไทยเข้าใจว่า
ไม่ต้องออกเสียงตัว t ที่อยู่ตอนท้ายด้วย
น่าจะเขียนคำอ่านเป็น แคท-ถึ (ออกเสียง ถึ เบาๆ) แต่ถ้าเราจัดทำสื่อการเรียนการสอนแบบมัลติมีเดีย
เด็กก็จะได้ยินทั้งเสียงที่ถูกต้อง ได้เห็นภาพ และตัวหนังสือด้วย ซึ่งทำได้ไม่ยาก
และต้นทุนก็ไม่มาก การเรียนของเด็กก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กิจกรรมจากการเรียนรู้
เนื้อหาที่ 2 การสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย
การสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย
การสอนภาษาอังกฤษนับเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการเรียนรู้ของเด็กในยุคปัจจุบัน
โดยเฉพาะตามแนวนโยบายการเตรียมความพร้อม.เด็กสู่ประชาคมอาเซียนที่มุ่งเน้นการให้เด็กใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับคนต่างชาต่างวัฒนธรรมอื่น
อย่างไรก็ตาม แนวการสอนภาษาอังกฤษสําหรับเด็กควรคํานึงถึงพัฒนาการตามวัยและความสามารถในการรับรู้ของเด็กเป็นสําคัญ
ซึ่งตามหลักพัฒนาการของเด็กวัยอนุบาลนั้น เด็กวัยนี้เป็นวัยที่เรียนรู้จากความสนใจเป็นหลัก
(Emotional-based Learning) การเรียนรู้จากการเล่น
การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้ใหญ่ผ่านแนวการสอนแบบ Whole Language ที่เน้นการจดจําโครงสร้างรูปคํา (Word-shape Recognition) จะนําไปสู่ความสนุกสนาน ความรู้สึกอยากติดตาม และที่สําคัญเกิดการจดจําและสามารถเชื่อมโยงการใช้คําศัพท์ที่เรียน
สู่ชีวิตประจําวัน
เทคนิคการสอนคําศัพท์ภาษาอังกฤษสําหรับเด็กปฐมวัย
1.
การเลือกคําศัพท์
ควรจัดคําศัพท์ให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันจะช่วยให้จําได้ง่ายขึ้น เช่น
ศัพท์เกี่ยวกับอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า
อวัยวะร่างกาย สีต่างๆ เป็นต้น
2. วิธีการสอน
เน้นให้เด็กได้ฝึกการใช้ศัพท์ การสอนศัพท์เพียงครั้งเดียวไม่พอ จะต้องทบทวนบ่อยๆ
ด้วยวิธีการอันหลากหลาย เพื่อมิให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย และควรหมั่นทบทวนบ่อยๆ
เพราะถ้าศัพท์ที่สอนไปแล้วไม่ได้ใช้เด็กก็อาจลืมได้
3. การสอนคําศัพท์ใหม่
การสอนศัพท์ใหม่ ควรสอนให้ผ่านประสาทสัมผัสให้มากที่สุด โดยใช้รูปแบบประโยคหรือศัพท์ที่เด็กเคยเรียนรู้มาแล้ว
โดยมีคําที่เป็นศัพท์ใหม่ปนอยู่เพียงคําเดียว แล้วให้เดาความหมายของคําศัพท์นั้น
วิธีนี้จะทําให้นักเรียนจําความหมายได้ดีกว่าแบบบอกตรงๆ
4. การเชื่อมโยงคําศัพท์ภาษาอังกฤษกับภาษาไทย
การแปลความหมายของศัพท์เป็นภาษาไทยตรงๆ ควรทําต่อเมื่อเห็นว่าไม่อาจใช่วิธีอื่นที่ดีกว่าเหมาะสมกว่าการให้ความหมายของคําในภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยนั้น
ไม่เสียหายอะไร แต่การแปลแบบคําตอบคําจะทําให้แปลไม่รู้เรื่องเขาไปใหญ่
5. สื่อประกอบการสอน
ควรใช้สื่อของจริงมาประกอบในการสอนคําศัพท์ใหม่ ให้ตัวอย่างแก่เด็กให้มากเพื่อให้เด็กใช้ตัวอย่างนั้นๆ
มาทําความเข้าใจ
6. การปฏิบัติต่อเด็ก
เวลาตอบให้เด็กตอบเป็นกลุ่มก่อน เพื่อให้เด็กคนอื่นๆได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
ไม่ควรแบ่งกลุ่มเด็กเก่งเด็กอ่อน พยายามให้เด็กเกิดการโต้ตอบอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรคาดคั้นเด็กที่ตอบไม่ได้
ให้ตอบให้ได้แต่พยายามช่วยเหลือเด็กโดยการแนะเป็นแนวทางไปเรื่อยๆแทน
กิจกรรมจากการเรียนรู้เป็นการยกตัวอย่างการออกเสียงโดยใช้ริมฝีปากทั้งสอง มีตัวอักษรที่ใช้ริมฝีปากทั้งสองคือ m p Ph b และมีการยกตัวอย่างคำศัพท์ คือ man pig physics bat เป็นต้น
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)













